top of page

เด็กทารกควรกินอาหารอย่างไร? เพื่อให้การเจริญเติบโตสมวัย!

อัปเดตเมื่อ 17 พ.ย. 2561


ข้าวกล้องงอก อาหารเสริมเด็ก ไฮเฮง 
ควรให้ทารกกินอาหารอย่างไร? เพื่อให้การเจริญเติบโตสมวัย!

เด็กทารกควรกินอาหารอย่างไร? เพื่อให้การเจริญเติบโตสมวัย!


บทความที่นำเสนอเรื่องนี้เป็นบทสัมภาษณ์ ดร.อุรุวรรณ แย้มบริสุทธิ์ จากสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ในรายการโภชนาการออนไลน์ โดยมีพิธีกร คุณศิริพร โกสุม นักประชาสัมพันธ์ชํานาญการ เป็นผู้สัมภาษณ์ ซึ่งล้วนแต่เป็นประเด็นที่คุณแม่อยากรู้กันมาก โดยเฉพาะคุณแม่มือใหม่ยิ่งต้องได้รู้ค่ะ


การให้อาหารเด็กทารกควรเริ่มเมื่ออายุเท่าไร? ควรให้อาหารลูกอย่างไร? ควรให้ในปริมาณ เท่าไรจึงจะเพียงพอ? การเจริญเติบโตของทารกเป็นสิ่งที่ปรารถนาของคุณพ่อคุณแม่ ทั้งในเรื่องการเจริญเติบโตทาง ร่างกายและสมอง โดยธรรมชาติต้ังแต่แรกเกิดถึง 2 ปี เด็กจะมีการพัฒนาสมองร้อยละ 60-70 เมื่อเทียบกับสมองของผู้ใหญ่ ดังนั้นสิ่งแวดล้อมต่างๆ จะมีความสําคัญมาก ภาวะโภชนาการ และสารอาหารจะมีบทบาทสําคัญในการพัฒนาสมองและร่างกายของเด็ก


ส่วนใหญ่การเติบโตของสมองจะเริ่มมต้ังแต่ทารกอยู่ในครรภ์ใช่ไหม?


ใช่ สมองทารกจะพัฒนาต้ังแต่อยู่ในครรภ์มารดา เมื่อคลอดออกมาจะมีการพัฒนาเติบโตใน อัตราที่ค่อนข้างรวดเร็ว ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 2 ปีแรก ดังน้ันสารอาหารที่สําคัญโดยเน้นการให้ นมแม่เพียงอย่างเดียวในช่วงแรกเกิดถึง 6 เดือน หลังจาก 6 เดือนจะมีอาหารเสริมเข้ามา เพิ่มเติม แต่สามารถให้นมแม่ควบคู่กับอาหารเสริมจนถึง 2 ปี

ข้าวกล้องงอก อาหารเสริมเด็ก ไฮเฮง 
นมแม่เพียงอย่างเดียวในช่วงแรกเกิดถึง 6 เดือน หลังจากนั้นจะมีอาหารเสริมเข้ามาเพิ่มเติม

นมแม่ มีภูมิคุ้มกันโรคด้วยไหม?


ใช่ นมแม่จะมีจุดที่เด่น มีความเหนือกว่านมผสม หรือนมวัว คือ นมแม่สามารถที่จะให้ ภูมิคุ้มกันหลายๆ ตัวที่จะต่อต้านแบคทีเรีย และไวรัสต่าง ๆ จะสังเกตได้ว่าเด็กที่ถูกเลี้ยงด้วยนม แม่มักจะไม่เป็นภูมิแพ้เมื่อเทียบกับเด็กที่กินนมผสม เด็กที่ได้รับนมผสมจะมีปัญหาในเรื่องนี้ได้ นับว่าเป็นปัญหาที่มีมากขึ้น จึงอยากจะเน้นเรื่องการให้นมแม่มากขึ้น


จริงไหม? เด็กที่กินนมแม่ โอกาสที่จะท้องเสียมีน้อย?


นมแม่เป็นนมที่ผ่านการฆ่าเชื้อโดยธรรมชาติ เด็กจะได้รับโดยตรงจากคุณแม่ซึ่งต่างจากนมผสม ที่จะต้องเตรียมอุปกรณ์ ขวดนมจะต้องไปต้ม ถ้าเตรียมไม่สะอาดเด็กก็จะท้องเดิน


นมแม่จะเป็นนมที่เด็กจะได้รับสารอาหารครบถ้วน และความผูกพันธ์ที่ลูกกับแม่จะมีมากน่าจะดีกว่าเด็กที่กินนมขวด การให้ลูกกินนมแม่ เป็นโอกาสที่แม่จะได้โอบอุ้มลูก เป็นการสร้างสายสัมพันธ์ และเมื่อเด็กกิน นมแม่อิ่มแล้วก็จะหลับไป ซึ่งจะต่างกับนมผสมที่ขึ้นอยู่กับจํานวนมื้อ และปริมาณการชง บางคร้ังคุณแม่อาจจะไม่ได้ชงเอง อาจให้พี่เลี้ยงเด็กชง และอาจจะให้ในสัดส่วนที่ไม่ถูกต้อง


ที่พูดกันว่าถ้าให้อาหารทารกเร็วเกินไป บางคนให้ไข่ ให้ปลา เร็วเกินไป ทําให้เกิดภูมิแพ้มากขึ้น ในเกณฑ์สากล คือ ให้นมแม่ต้ังแต่แรกเกิดจนถึง 6 เดือน หลังจากนั้นจะให้อาหารเสริมด้วย โดยจะให้ทีละอย่าง เพื่อจะได้สังเกตได้ว่า เด็กมีอาการแพ้อาหารชนิดใดหรือเปล่า โดยจะเริ่มจาก กลุ่มอาหารประเภทแป้ง เช่น กล้วย ข้าวบด ถัดมาเป็นไข่แดง ซึ่งจะมีความสําคัญมาก เพราะทําให้คุณแม่สามารถสังเกตได้ว่า ลูกมีอาการแพ้ไหม ถ้าไม่แพ้ก็สามารถเพิ่มปริมาณได้ปัญหาที่เกิดขึ้น คือ เร็วไปกับช้าไป


อีกกรณี คือให้อาหารช้าไป คือ โดยปกติเด็กควรจะให้อาหารขณะอายุได้ 6 เดือน แต่ให้ช้าไปก็จะทําให้เกิดปัญหาคือ การเติบโตของเด็กช้าลง เมื่อเทียบกับเด็กทั่ว ๆ ไปทําให้ได้สารอาหารไม่เพียงพอ

ข้าวกล้องงอก อาหารเสริมเด็ก ไฮเฮง 

เมื่อทารกอายุครบ 6 เดือน ควรเริ่มให้อาหาร ประเภทใด?

ควรเริ่มให้อาหารกลุ่มแป้ง เช่น กล้วยครูด ข้าวบด เพราะช่วง 6 เดือน ระบบการย่อยอาหารจะเริ่มดีขึ้นแล้ว ครั้งแรกที่ให้ควรเริ่มจากปริมาณน้อยๆ ประมาณ 1⁄2 ช้อนชา และพอถึงสัปดาห์ที่ 2 อาจจะเพิ่มอาหารอย่างอื่น เช่น ไข่แดง ตับบด หรือฟักทองบด ในเรื่องของไข่ เด็กที่อายุตํ่ากว่า 7 เดือน ควรให้เฉพาะไข่แดงต้มสุก สาเหตุที่ไม่ให้ไข่ขาว เพราะเด็กที่อายุก่อน 6 เดือน อาจจะมีอัตราการแพ้โปรตีนจากไข่ขาวได้ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงจึงมีการต้ังเป็นแนวทาง คือถ้าจะให้ไข่ท้ังฟองควรจะเริ่มเมื่ออายุ 7 เดือนขึ้นไป เพราะเมื่อเด็กอายุมากขึ้นภูมิคุ้มกันในการพัฒนาจะมีมากขึ้นโอกาสแพ้จะน้อยลง

ข้าวกล้องงอก อาหารเสริมเด็ก ไฮเฮง 
วิธีส้งเกตุว่าเด็กแพ้อะไรบ้าง

เรื่องการแพ้อาหารของเด็ก การเฝ้าระวังควรทําอย่างไร และควรจะทำจนเด็กอายุเท่าไร?พอเด็กอายุใกล้ ๆ 1 ขวบ เด็กก็จะทานอาหารที่มีส่วนผสมหลาย ๆ อย่าง ถือว่าเป็นเรื่องสําคัญมากเลยเพราะถ้าให้อาหารหลาย ๆ อย่างจะสร้างปัญหาเรื่องการแพ้อาหารได้


ถ้ารู้ว่าเด็กแพ้อาหารชนิดใด จะต้องเลิกให้อาหารชนิดน้ันเลยหรือไม่? อย่างไร?


การแพ้จะมี 2 ส่วน คือแพ้นม และแพ้อาหาร


ถ้าเด็กแพ้นม คือ จะมีส่วนหนึ่งที่เด็กแพ้โปรตีนในนม อาการที่แสดงออกมาคือ เด็กจะมีผืนแดง ๆ หายใจหอบ หืด หรือมีอาการท้องเดิน ท้องเสีย ถ้ามีอาการอย่างนั้นจะต้องงดนมทันที และควรพาเด็กไปปรึกษากุมารแพทย์ว่าเด็กควรจะ ได้รับนมสูตรไหนทดแทน


ถ้าเด็กแพ้อาหาร เช่น เด็กแพ้ถั่วลิสงหรือไข่ ถ้าต้องการจะทราบว่า เด็กแพ้ตัวไหนจะต้องมีการทดสอบทางการแพทย์โดยการนําอาหารแต่ละตัวมาทดสอบ เพื่อให้มั่นใจว่าแพ้อาหารชนิดนั้น ๆ หรือเปล่า เด็กเล็กก็มีปัญหาในเรื่องการแพ้อาหารได้ เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องภูมิคุ้มกันที่ไม่สมบูรณ์ เมื่ออายุ 2-3 ขวบไปแล้วอาการแพ้ส่วนใหญ่จะดีข้ึน และสามารถให้อาหารทั่ว ๆ ไปได้ แต่จะต้องมีการสังเกตอยู่เสมอ


ขอบคุณข้อมูลจาก: รายการโภชนาการออนไลน์

พิธีกร: คุณศิริพร โกสุม | วิทยากร: ดร.อุรุวรรณ แย้มบริสุทธิ์ สถาบันโภชนาการ ม.มหิดล

รู้ก่อนใคร..!

ไอเดียทำอาหารเด็ก และเคล็ดลับเพื่อลูก..แอด LINE ID: @highheng ไว้เลยค่ะ

 ไลน์ ข้าวกล้องงอก ไฮเฮง | LINE ID: @highheng
มือขวาของคุณแม่ ช่วยได้แน่เรื่องอาหารเด็ก

Commenti


bottom of page